Start planning your trip

Kobe Port Tower ที่เป็นแลนด์มาร์คของโกเบ เมืองท่าของญี่ปุ่น หอคอยที่รูปร่างหน้าตาคล้ายกลอง มีสีแดงสดน่าจดจำ และมีความสูงถึง 180 เมตรนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวนิยมมาเยี่ยมชมกัน ด้วยความที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของโกเบ จากจุดชมวิวด้
ถ้าพูดสัญลักษณ์ของโกเบ เมืองท่าที่เพิ่งครบรอบเปิดท่าเรือ 150 ปีในปี 2017 นี้ ก็ต้องนึกถึง「โกเบพอร์ตทาวเวอร์」Kobe Port Tower หอคอยที่เป็นแลนด์มาร์คของเมืองโกเบที่เริ่มเปิดในปี 1963
หอคอยสีแดงสดตัดกับท้องฟ้าสดใส ที่มีความสูง 108 เมตร
จุดเด่นของหอคอยนี้ก็คือ ความเป็นหอคอยเพื่อการท่องเที่ยวที่มีโครงสร้างเหมือนท่อแห่งแรกของโลก และรูปทรงไฮเปอร์โบล่า ที่ตรงกลางมีลักษณะคอดเว้าเข้าด้านใน คล้ายกับ「กลองซึซึมิ」เครื่องดนตรีของญี่ปุ่น ส่วนที่ตัวหอคอยมีการประดับไฟยามค่ำคืนเป็นที่แรกของญี่ปุ่น จนได้รับรางวัลจากแวดวงสถาปัตยกรรมและไฟประดับมากมาย
ด้านในหอคอยมีจุดชมวิว และคนทั่วไปก็สามารถขึ้นไปชื่นชมได้ วันนี้เราจะพาไปดูวิวสวย ๆ ที่จุดชมวิวบนหอคอยกันค่ะ
จุดชมวิวที่นี่คิดราคาค่าชมวิวด้วยค่ะ โดยจะต้องทำการซื้อตั๋วที่ช่องขายตั๋วชั้น 1F ก่อน หรือจะซื้อจากเครื่องขายตั๋วอัตโนมัติก็ได้ค่ะ ราคาสำหรับผู้ใหญ่ (ม.ปลายขึ้นไป) 700 เยน เด็กประถมและมัธยมต้น 300 เยน สามารถซื้อเป็นกรุ๊ปใหญ่หรือ ซื้อพร้อมกับKobe Maritime Museum ได้ด้วยค่ะ สำหรับรายละเอียด เชิญเข้าไปอ่านในเว็บไซต์ของ Kobe Port Tower กันก่อนได้เลยค่ะ
หลังจากซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว ขึ้นลิฟต์จากชั้น 2F ไปที่จุดชมวิวกันได้เลย ชั้นที่เป็นจุดชมวิวจะมีแบ่งออกเป็น 5 ชั้น หลังจากขึ้นลิฟต์แล้ว ใช้เวลาแค่ 50 วินาทีก็ถึงจุดชมวิวชั้น 4 แล้วค่ะ
ที่ชั้นจุดชมวิว 4F นี้จะมีร้านขายของฝาก ของฝากที่ชาวต่างชาตินิยมซื้อกันก็คือ ที่คั่นหนังสือไม้ไผ่ (ราคารวมภาษี 330 เยน) และพวกกุญแจเด็กผู้หญิงใส่ชุดกิโมโน(ราคารวมภาษี 650 เยน)
ในแต่ละชั้นของจุดชมวิวจะต้องใช้บันไดขึ้นลง คราวนี้เราไปชมวิวกันที่ชั้นจุดชมวิว 5F กันก่อนเลยค่ะ
นี่ไงคะ ุจุดชมวิว 360 องศารอบทิศ จากหน้าต่างทางทิศเหนือ เพื่อน ๆ จะเห็นภูเขารกโก้เรียงรายอยู่หลังตึกสูงต่าง ๆ ที่ชั้นจุดชมวิว 5F นี้ จะมีอธิบายสถานที่ขึ้นชื่อหรือสิ่งก่อนสร้างหลัก ๆ ด้วยแผงรูปภาพพร้อมเสียงประกอบด้วย
ทางฝั่งทิศใต้จะเป็นท่าเรือโกเบ, Port Island เกาะที่สร้างขึ้นมาและมีสะพานสีแดงเชื่อม, สนามบินโกเบที่ตั้งอยู่บนน้ำทะเล และที่เห็นไกลลิบ ๆ นั้นก็คืออ่าวโอซาก้าที่บ้านเมืองบริเวณรอบ ๆ ค่ะ
สิ่งที่แนะนำต่อไปก็คือ Sky Walk ที่อยู่ชั้นจุดชมวิว 1F พอมีคนเดินเข้ามาใกล้ เซนเซอร์จะทำงาน ทำให้กระจกหนาจะเปลี่ยนเป็นใสจนมองทะลุได้ ถือว่าเป็นจุดที่ท้าทายและน่าตื่นเต้นสำหรับเพื่อน ๆ ที่กลัวความสูงจริง ๆ เลยล่ะ
ที่นี่มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามามากถึง 350,000 คนต่อปี สำหรับ 5% จะเป็นนักท่องเที่ยวที่มาญี่ปุ่น โดยส่วนใหญ่จะเป็นคนจีนและคนเกาหลี ที่นี่จึงมีแผ่นพับภาษาอังกฤษ、ภาษาจีน、ภาษาเกาหลี จัดเตรียมไว้ให้พร้อมเลยค่ะ
ป้ายประกาศต่าง ๆ จะมีภาษาอังกฤษเขียนควบคู่กัน หรือบางจุดที่สำคัญก็จะมีภาษาจีน และภาษาเกาหลีด้วย ไม่ต้องกังวลว่าจะสื่อสารไม่ได้เลยค่ะ
พอตะวันลับฟ้า หอคอยก็จะถูกประดับไฟให้สวยงามด้วยหลอดไฟ LED 7,040 ดวง ยิ่งทำให้ดูสวยงามโดดเด่นมากขึ้นไปอีก สำหรับดีไซน์หรือธีมของไฟประดับจะขึ้นอยู่กับฤดูกาล งานเทศกาล หรือแคมเปญต่าง ๆ ช่วงใกล้วาเลนไทน์ที่ผ่านมา หอคอยจะมีดวงไฟรูปหัวใจสีแดงและสีชมพูราวกับกำลังโปรยปรายลงมาด้วยค่ะ แน่นอนว่าเพื่อน ๆ ต้องไม่พลาดขึ้นไปชมวิวกลางคืนที่นับว่าสวยติดอันดับ 1 ใน 3ของญี่ปุ่นเลยทีเดียว วิวทิวทัศน์จะต่างกับตอนกลางวันตรงที่มีความโรแมนติคสุด ๆ เลยล่ะ
หลังจากชมไฟประดับสวยงามระยิบระยับจากด้านล่างเสร็จแล้ว ให้เดินไปทางทิศตะวันตกเล็กน้อย เพื่อชมหอคอยในอีกมุมทางฝั่งท่าเทียบเรือที่อยู่ใกล้กับฮาร์เบอร์แลนด์ หอคอยสีแดงสดที่ตัดกันกับสีขาวของ Kobe Maritime Museum แค่ดูจากรูปยังสวยงามจับใจขนาดนี้เลย
ทางสตาฟของ Kobe Port Tower ฝากมาบอกว่า "Kobe Port Tower ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองโกเบและมีรูปร่างหน้าตาแปลกไม่เหมือนใครนี้ ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็สวยงาม ภายในหอคอยมีบรรยากาศสไตล์ย้อนยุคเล็ก ๆ ไม่ว่าจะจากด้านนอกหรือด้านในก็สามารถเพลิดเพลินไปกับหอคอยนี้ได้ ยังไงก็อยากให้มาเยี่ยมชมกันให้ได้เลยด้วยค่ะ"
หอคอยแสนสวยและโดดเด่นแห่งนี้ ไม่เพียงแต่รูปภาพสวย ๆ ที่จะได้ถ่ายไปอวดใคร แต่ยังเป็นความทรงจำดี ๆ ที่ได้มาเที่ยวโกเบของเพื่อน ๆ แน่นอนค่ะ
日本文化、特に絵画や工芸品が好き。福岡、京都、大阪、ベルギー、アメリカを経て現在は神戸在住。座右の銘は「住めば都」。